จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัว (หรือ สวิงไฮและสวิงโล) ในการเทรดฟอเร็กซ์คืออะไร?

คุณสามารถมองว่าพวกมันเป็นจุดหมุนพื้นฐานที่ตลาดทดสอบทิศทางแล้วทิ้งเครื่องหมายที่มีประโยชน์สำหรับการซื้อขายในอนาคตเอาไว้ เมื่อคุณอ่านการแกว่งตัวได้ดี แนวโน้มและกรอบการซื้อขายจะไม่ดูเหมือนเดาสุ่มอีกต่อไป คุณสามารถระบุได้ว่าการซื้อเริ่มต้นที่ใด การขายเข้ามาควบคุมที่ใด และการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปอาจเริ่มต้นที่ใด

วิธีการระบุจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัว

วิธีที่ง่ายที่สุดในการระบุคือรอจนกว่าคุณจะมีแท่งเทียนอย่างน้อยสามแท่งติดต่อกัน จากนั้นให้โฟกัสที่แท่งกลาง หากจุดสูงสุดของมันอยู่เหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนทั้งสองที่อยู่ด้านข้าง นั่นคือสัญญาณของจุดสูงสุดของการแกว่งตัว (หรือสวิงไฮ - Swing High) หากจุดต่ำสุดของมันอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนทั้งสองที่อยู่ด้านข้าง นั่นคือสัญญาณของจุดต่ำสุดของการแกว่งตัว (หรือสวิงโล - Swing Low) ควรยืนยันรูปแบบด้วยการรอให้แท่งเทียนที่อยู่ด้านข้างปิดก่อน เพื่อให้สัญญาณมีความชัดเจน

กฎนี้ให้สัญญาณที่เรียบง่ายและทำซ้ำได้ มันจะช่วยหยุดคุณจากการคาดเดาทุกการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ และช่วยให้คุณสามารถทำเครื่องหมายระดับได้หลังจากที่ราคาเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน ในตลาดที่เคลื่อนไหวเร็ว รูปแบบนี้จะปรากฏบ่อยขึ้น แต่กฎก็ยังคงเหมือนเดิม รอให้มีสามแท่งเทียน จากนั้นทำเครื่องหมายจุดสวิง

เทรดเดอร์บางส่วนต้องการความชัดเจนเพิ่มเติม พวกเขาจะเพิ่มตัวบ่งชี้ ZigZag หรือ Fractals ใน MT4/MT5 เพื่อเน้นจุดเปลี่ยนสำคัญ เครื่องมือเหล่านี้ไม่ได้ทำนายทิศทาง แต่เพียงทำให้เห็นการแกว่งตัวได้ชัดขึ้น

สำหรับการเทรดแบบเรียลไทม์ ให้ผสมผสานตรรกะเรื่องนี้สวิงเข้ากับเรื่องการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action) แท่งเทียนพินบาร์ (Pin Bar) หรือกลืนกิน (Engulfing) ที่ระดับสวิงสามารถเป็นเบาะแสที่แข็งแกร่งว่าการเคลื่อนไหวนั้นเป็นของจริง ปล่อยให้จุดสวิงทำเครื่องหมายพื้นที่ และปล่อยให้แท่งเทียนแสดงจุดเข้า

จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวในโครงสร้างตลาด

การทำลายลำดับดังกล่าวอาจเตือนถึงทิศทางใหม่ หากราคาหยุดสร้างจุดสูงสุดที่สูงขึ้นใหม่ จากนั้นร่วงลงต่ำกว่าจุดต่ำสุดล่าสุด นั่นแสดงว่าการเคลื่อนที่ขาขึ้นอาจกำลังสูญเสียแรงผลักดัน หากราคาหยุดสร้างจุดต่ำสุดที่ต่ำลงใหม่ จากนั้นพุ่งขึ้นสูงกว่าจุดสูงสุดล่าสุด แสดงว่าผู้ซื้ออาจกำลังเข้าควบคุมและผลักดันตลาดไปในอีกทิศทางหนึ่ง การสังเกตการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นการเปลี่ยนทิศทางได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

จุดสวิงยังช่วยให้คุณลากเส้นแนวโน้มและช่องสัญญาณได้อย่างมั่นใจ เชื่อมต่อจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น หรือจุดสูงสุดที่ต่ำลงในแนวโน้มขาลง แล้วคุณจะได้แนวทางที่ชัดเจนสำหรับการดึงกลับและเบรกเอาต์ ใช้จุดเดียวกันนี้เพื่อกำหนดกรอบโซนอุปทานและอุปสงค์

จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวคือแผนที่พื้นฐานของการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อคุณทำเครื่องหมายจุดเหล่านี้ก่อน ส่วนที่เหลือของกราฟจะอ่านง่ายขึ้นและตัวเลือกในการเทรดของคุณจะชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งจุดเข้า จุดออก และจุด stop loss ต่างดีขึ้นเมื่อโครงสร้างราคามีความชัดเจน

ตัวอย่างการใช้งานจริงบนกราฟ

กราฟด้านล่างแสดงให้เห็นว่าจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวสร้างโครงสร้างตลาดอย่างไร ลูกศรและเส้น ZigZag ทำเครื่องหมายแต่ละจุดเปลี่ยนผ่าน ขณะที่เราเคลื่อนจากแนวโน้มขึ้นไปสู่แนวโน้มลง จากนั้นเข้าสู่การเคลื่อนไหวแบบออกข้างก่อนจะเบรกเอาต์ออกไปในที่สุด

ตัวอย่างของแนวโน้มขึ้นที่ชัดเจนด้วยตัวบ่งชี้ ZigZag ซึ่งเกิดจากจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น

ZigZag เชื่อมต่อจุดสูงสุดและต่ำสุดของการแกว่งตัวบน GBPUSD กราฟ H1 และแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่ชัดเจน ลูกศรสีแดงระบุจุดสูงสุดที่สูงขึ้นและลูกศรสีเขียวระบุจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ในขณะที่เส้นสีดำคือเส้นแนวโน้มที่ลากผ่านจุดต่ำสุด ทางด้านขวา แนวโน้มดังกล่าวล้มเหลวเมื่อราคาทะลุจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นล่าสุดและเริ่มลดลง

ตัวอย่างของแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนซึ่งเกิดจากจุดสูงสุดที่ลดลงและจุดต่ำสุดที่ลดลง

กราฟ GBPUSD บนกรอบเวลา H1 นี้ แสดงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจนซึ่งสร้างขึ้นจากจุดสูงสุดที่ลดลงและจุดต่ำสุดที่ลดลง ลูกศรสีแดงระบุจุดสูงสุดที่ต่ำลงในแต่ละครั้ง และลูกศรสีเขียวระบุจุดต่ำสุดที่ต่ำลงในแต่ละครั้ง ในขณะที่เส้นสีดำคือเส้นแนวโน้มขาลงที่ลากผ่านจุดต่ำสุด การเด้งแต่ละครั้งล้มเหลวอยู่ใต้จุดสูงสุดล่าสุด และการลดลงยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าราคาจะทะลุขึ้นเหนือจุดสูงสุดที่ต่ำลงก่อนหน้านี้

ตัวอย่างของกรอบราคาที่ชัดเจน → จุดสูงสุด/ต่ำสุดของการแกว่งตัวอยู่ในแนวราบ

กราฟ GBPUSD บนกรอบเวลา H4 นี้ แสดงการเคลื่อนไหวในกรอบที่ชัดเจน ลูกศรสีแดงระบุจุดสูงสุดของการแกว่งตัวในแนวราบที่แนวต้าน และลูกศรสีเขียวระบุจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวในแนวราบที่แนวรับ ราคาเคลื่อนที่ไปมาอยู่ระหว่างระดับเหล่านี้ จนกระทั่งมีการปิดแท่งเทียนที่ชัดเจนเหนือแนวต้าน ซึ่งทำลายกรอบการเคลื่อนไหวนี้ออกไปและเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้น

กลยุทธ์การเทรดโดยใช้จุดสวิง

จุดสวิงที่ชัดเจนช่วยให้คุณวางแผนได้ ใช้จุดเหล่านี้เพื่อเทรดในช่วงเบรกเอาต์แล้วกลับมาทดสอบ หรือเพื่อเข้าร่วมแนวโน้มในช่วงดึงกลับ โดยตั้งเป้าหมายแบบง่าย ๆ ซื้อเมื่อราคาอยู่ในจุดที่ผู้ซื้อเคยก้าวเข้ามาก่อนหน้านี้ หรือขายเมื่อราคาอยู่ในจุดที่ผู้ขายเคยเข้ามาครอบครอง และจัดการความเสี่ยงรอบ ๆ ระดับเดียวกันเสมอ

กลยุทธ์เบรกเอาต์แล้วกลับมาทดสอบ

ขั้นแรก ให้ทำเครื่องหมาย จุดสวิงสูง (swing high) ที่สำคัญซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้าน หรือ จุดสวิงต่ำ (swing low) ที่สำคัญซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวรับ จากนั้นรอให้ราคาปิดเหนือระดับดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าเป็นการเบรกเอาต์จริง หลังจากนั้น คอยดูว่าราคาจะย้อนกลับมาทดสอบบริเวณเดิมจากอีกด้านหนึ่งหรือไม่

หากจุดสูงสุดก่อนหน้าถูกทำลายและราคากลับมาทดสอบอีกครั้งจากด้านบน คุณสามารถวางคำสั่งซื้อ buy limit ที่ระดับนั้นได้ กำหนดจุดหยุดขาดทุนต่ำกว่าระดับที่กลับมาทดสอบเพียงเล็กน้อยและตั้งเป้าหมายไว้ที่แนวต้านถัดไป หากจุดต่ำสุดก่อนหน้าแตกและราคากลับมาทดสอบจากด้านล่าง คุณสามารถวางคำสั่ง sell limit ที่ระดับนั้นได้ กำหนดจุดหยุดขาดทุนเหนือระดับที่กลับมาทดสอบเพียงเล็กน้อยและตั้งเป้าหมายไว้ที่แนวรับถัดไป

คงแผนการเทรดให้เรียบง่าย ใช้การปิดของแท่งเทียนยืนยันการเบรกเอาต์ ใช้การกลับมาทดสอบยืนยันระดับ เข้าเทรดเฉพาะเมื่อราคาชะลอตัวหรือเปลี่ยนทิศทางจากโซนนั้น และจัดการขนาดสถานะให้เหมาะสมเพื่อให้การขาดทุนเต็มที่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ของบัญชี

การต่อเนื่องของแนวโน้มพร้อมการดึงกลับของการแกว่งตัว

ในตลาดขาขึ้น ราคาจะปรับตัวขึ้นเป็นขั้นบันได โดยให้ซื้อที่จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเหนือแนวรับเดิม ในตลาดขาลง ราคาจะปรับตัวลงเป็นขั้นบันได โดยให้ขายที่จุดสูงสุดที่ต่ำลง ซึ่งเกิดขึ้นใต้แนวต้านเดิม

ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement เพื่อกำหนดจุดเข้า เทรดเดอร์จำนวนมากจับตามองที่ระดับ 0.5 และ 0.618 เมื่อราคาดึงกลับสู่จุดสวิงเดิม หากราคากลับเข้าสู่โซนนั้นและแสดงสัญญาณเด้งชัดเจน แผนการก็ง่ายดาย เข้าตามแนวโน้ม ตั้งจุดตัดขาดทุนเกินจุดสวิง ตั้งเป้าหมายแรกที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดก่อนหน้า และถือสถานะต่อไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่แนวโน้มยังคงแข็งแรง

วิธีการนี้ช่วยให้คุณเทรดตามโมเมนตัม โดยหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อที่จุดสูงสุดใหม่หรือจุดต่ำสุดใหม่ และโฟกัสที่การดึงกลับของราคาที่ชัดเจน เมื่อการสวิงของราคาสอดคล้องกับระดับที่คุณกำหนด การจับจังหวะจะง่ายขึ้นและความเสี่ยงก็จะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม

ตัวบ่งชี้จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของการแว่งตัวของราคา

การหมั่นสังเกตด้วยตนเองจะช่วยฝึกสายตาได้ แต่เครื่องมือก็ช่วยได้เช่นกัน ตัวบ่งชี้ ZigZag จะช่วยกรองการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ และเน้นไปที่การแกว่งตัวใหญ่ ๆ มันจะอัปเดตตามการเปลี่ยนแปลงของราคา ดังนั้นควรใช้เป็นแนวทางสายตา ไม่ใช่เป็นสัญญาณ ส่วนตัวบ่งชี้ Fractals นั้นจะแตกต่างออกไป มันจะวางลูกศรเล็ก ๆ ไว้เหนือและใต้แท่งเทียนเพื่อทำเครื่องหมายจุดสูงสุดและต่ำสุดในบริเวณนั้น ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสแกนกราฟได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีตัวบ่งชี้แบบกำหนดเองสำหรับ MT4 และ MT5 ที่ทำเครื่องหมายจุดหมุน (pivots) หลังจากผ่านจำนวนแท่งเทียนตามที่กำหนดไว้ คุณสามารถตั้งค่าให้เครื่องมือรอจนกว่าจะนับได้จำนวนตามที่ต้องการ เพื่อให้แสดงเฉพาะการแกว่งตัวที่แข็งแกร่งเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลบเครื่องหมายส่วนเกินออกและทำให้กราฟของคุณดูมีความชัดเจน

จำไว้ว่าเครื่องมือเหล่านี้ทำอะไร มันแสดงให้เห็นเพียงโครงสร้าง แต่ไม่ได้บอกจังหวะที่ควรซื้อหรือขาย ลองใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกับตัวกรองง่าย ๆ เช่น RSI หรือ Price Action การที่ RSI เปลี่ยนทิศจากภาวะขายมากเกินไปที่จุดต่ำสุดช่วยสนับสนุนไอเดียการเปิดสถานะ Long และการที่แท่งเทียนขาลงอยู่ที่จุดสูงสุดก็จะช่วยสนับสนุนไอเดียการเปิดสถานะ Short

เมื่อสงสัย ให้ปรับกราฟให้ดูเรียบง่าย จากนั้นให้ลองวาดจุดสวิงด้วยมือก่อน แล้วค่อยเพิ่มเครื่องมือหากต้องการความชัดเจน สัญญาณรบกวนน้อยลงหมายถึงโฟกัสที่ดีขึ้นและมีคำสั่งซื้อขายที่เปิดแบบสุ่ม ๆ น้อยลง

ข้อจำกัดและข้อผิดพลาดที่พบบ่อย

บริบทของกรอบเวลานั้นมีความสำคัญ จุดต่ำสุดของการแกว่งบนกราฟห้านาทีอาจไม่มีความหมายใด ๆ บนกราฟสี่ชั่วโมง ควรตรวจสอบกราฟช่วงเวลาที่สูงกว่าเพื่อดูแนวโน้มภาพรวมก่อนดำเนินการบนกราฟในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า

การเบรกเอาต์จำเป็นต้องได้รับการยืนยัน การแกว่งตัวจะไม่ถูกทำลายจนกว่าแท่งเทียนจะปิดเหนือหรือต่ำกว่าระดับนั้น ให้มองข้ามเส้นบาง ๆ ที่อยู่เหนือหรือใต้แท่งเทียน รวมถึงการเคลื่อนไหวรวดเร็วภายในแท่งเทียนเดียวกัน การกลับมาทดสอบจะทำให้ระดับมีความความแข็งแกร่งมากขึ้นและลดการเคลื่อนไหวที่ผิดพลาด

การไล่ตามทุกการแกว่งตัวนั้นเป็นความผิดพลาด การแกว่งตัวบางครั้งเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเบาบางและจางหายไปอย่างรวดเร็ว บางส่วนก็อยู่กลางช่วงที่ราคาไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ควรรอการแกว่งตัวในจุดที่มีประโยชน์ เช่น ระดับสูงสุดก่อนหน้า ระดับต่ำสุดก่อนหน้า และโซนอุปทานหรืออุปทานที่ชัดเจน

ท้ายที่สุด จัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งแรก วางจุด stop loss ไว้เหนือจุดสวิงที่ยืนยันแนวคิดของคุณ อย่าเคลื่อนจุดตัดขาดทุน เว้นแต่ว่าตลาดสร้างจุดสวิงใหม่เพื่อปกป้องคำสั่งซื้อขาย ความเสี่ยงที่เล็กและมั่นคงจะทำให้คุณอยู่ในเกมได้นานพอเพื่อให้โครงสร้างตลาดได้ทำหน้าที่ของมัน