FOMO ในการเทรดคืออะไร?

สิ่งนี้มักเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในช่วงที่ราคาเบรกเอาต์ การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจากข่าว ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง หรือหลังจากที่เห็นคำสั่งซื้อขายที่ชนะของผู้อื่น และมักนำไปสู่การเข้าซื้อขายที่ล่าช้าและมีขนาดใหญ่เกินไปที่มาพร้อมกับการควบคุมความเสี่ยงที่อ่อนแอ

FOMO บิดเบือนการตัดสินใจอย่างไรบ้าง

FOMO เปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการกระทำของคุณ คุณเลิกทำตามแผนของตัวเองและเริ่มทำตามฝูงชน

มันมักทำให้คุณเพิ่มขนาดสถานะเมื่อรู้สึกตื่นเต้นหรือกลัว คุณเข้าซื้อขายล่าช้าหลังการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ผ่านไปแล้ว ดังนั้นความเสี่ยงจึงเพิ่มขึ้นในขณะที่ผลตอบแทนลดลง คุณข้ามขั้นตอนตรวจสอบในกฎของคุณเพราะกลัวว่าการเคลื่อนไหวนี้จะเกิดขึ้นโดยไม่มีคุณ

FOMO ยังบิดเบือนการอ่านกราฟของคุณอีกด้วย คุณเริ่มมองเห็นรูปแบบที่ไม่มีจริง และกระโดดสลับกรอบเวลาไปมา จนกว่าจะพบหนึ่งแบบที่ตรงกับอคติของคุณ คุณปิดคำสั่งซื้อขายที่กำไรเร็วเกินไปเพื่อความรู้สึกปลอดภัย จากนั้นก็กลับไปไล่ตามการเคลื่อนไหวเดิมในราคาที่แย่กว่า

ลองใช้แบบทดสอบสั้น ๆ ก่อนวางคำสั่งซื้อใด ๆ การตั้งค่านี้อยู่ในกราฟองคุณหรือไม่? อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนยังสมเหตุสมผลอยู่ไหม? การเข้าซื้อขายเป็นไปตามเวลาหรือล่าช้า? หากคุณไม่สามารถตอบว่า "ใช่" ด้วยจิตใจที่ปลอดโปร่งได้ นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้เทรดตามแผน แต่กำลังเทรดด้วยอารมณ์

สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเทรดด้วยอาการ FOMO

สัญญาณทั่วไปของ FOMO ที่ควรสังเกต:

• ขนาดสถานะเพิ่มขึ้นตามความรู้สึก ไม่ใช่ตามตรรกะ

• เข้าซื้อขายช้า แต่ออกเร็วเกินไป

• ข้ามกฎที่ตั้งไว้เพื่อเปิดสถานะทันที

• เปลี่ยนกรอบเวลาเพื่อให้คำสั่งซื้อขายนั้นดูสมเหตุสมผล

• รู้สึกโล่งหลังเปิดสถานะ แทนที่จะมั่นใจอย่างสงบ

การไล่ราคา

คุณซื้อใกล้จุดสูงสุดหลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือเปิด short ในช่วงที่ราคาตกลงอย่างหนัก การเปิดสถานะนั้นมาจากความกลัวที่จะพลาดโอกาส ไม่ได้มาจากการตั้งค่าที่ผ่านการทดสอบในแผนการเทรดของคุณ หากความเร็วเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เปิดสถานะ ให้ข้ามการเทรดครั้งนี้ไปเลย

การเปลี่ยนแปลงความเสี่ยงระหว่างที่กำลังเทรดอยู่

คุณเพิ่มขนาดสถานะโดยไม่มีกฎและย้ายจุดตัดขาดทุนเพราะหวังว่าราคาจะดีดกลับ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในขณะที่ตรรกะลดลง และคุณสูญเสียการเชื่อมโยงกับแผนการเทรด หากคำสั่งซื้อขายครั้งนั้นต้องการความช่วยเหลือ นั่นแสดงว่าการเปิดคำสั่งซื้อขายครั้งนั้นแย่และคุณเพิกเฉยต่อความเสี่ยง

ไม่มีเหตุผลชัดเจน

ก่อนที่คุณจะวางคำสั่งซื้อขาย คุณควรสามารถอธิบายเหตุผลในการเปิดคำสั่งซื้อขายได้ในสองประโยคสั้น ๆ หากคุณทำเช่นนั้นไม่ได้ นั่นแสดงว่าคุณไม่ได้ทำตามกฎและเป็นคำสั่งซื้อขายนั้นก็เกิดขึ้นแบบสุ่ม ๆ ให้รอจนกว่าคุณจะมีแผนที่ชัดเจนก่อนแล้วจึงค่อยดำเนินการ

การคัดลอกจากผู้อื่น

คุณดูฟีดโซเชียลระหว่างช่วงเวลาเปิดตลาดและเลียนแบบไอเดียโดยขาดบริบทหรือการวิจัย คุณรู้สึกว่าตามหลังเมื่อเห็นโพสต์ทำกำไรและเริ่มไล่ตามเพื่อให้ทันคนแปลกหน้า แรงกระตุ้นนั้นเกี่ยวกับสถานภาพ ไม่ใช่การเทรดที่สมเหตุสมผล และมันจะบดบังมุมมองของคุณ

สัญญาณจากร่างกาย

เมื่อคุณไม่มีสถานะกับเขา ไหล่ของคุณจะตึง และคุณจะหายใจเร็วภายใต้ความกดดัน หากการวางคำสั่งซื้อขายทำให้คุณรู้สึกสงบ นั่นหมายความว่าการกระทำนั้นเป็นเป้าหมาย ไม่ใช่แผนการที่ชัดเจน จงอ่านกราฟอย่างใจเย็นก่อนแล้วจึงคลิกหลังจากนั้น

ทำไม FOMO จึงอันตราย

FOMO ไม่เพียงแต่ทำลายคำสั่งซื้อขาย แต่มันยังบั่นทอนกิจวัตรและทำให้คุณตัดสินใจก่อนคิด ผลลัพธ์จะแย่ลงเพราะการคลิกอย่างรวดเร็วแทนที่การตรวจสอบอย่างรอบคอบ เมื่อคุณเทรดจากความกลัว คุณจะเข้าสู่ตลาดโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน คุณซื้อหรือขายเพียงเพราะราคาเคลื่อนไหว เมื่อเวลาผ่านไป ผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจะลดลงและบัญชีของคุณเติบโตช้าลง

การขาดทุนครั้งเดียวมักนำไปสู่ความเร่งรีบที่จะเอาคืน คุณเปิดคำสั่งซื้อขายถัดไปเร็วเกินไปและข้ามขั้นตอนของตัวเอง การขาดทุนทวีความรุนแรงขึ้น ในขณะที่สมาธิและความอดทนกลับลดลง

การเปิดสถานะด้วยขนาดใหญ่และเข้าซื้อขายแบบสุ่มจะสร้างความผันผวนอย่างรุนแรงให้กับยอดคงเหลือ การไม่ปฏิบัติตามกฎและการเข้าซื้อขายที่ล่าช้าจะเปลี่ยนกำไรเล็กน้อยให้กลายเป็นขาดทุนจำนวนมาก คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมและความตึงเครียดมากขึ้น ในขณะที่บัญชีขึ้นลงแบบควบคุมไม่ได้

ความกลัวว่าจะพลาดโอกาสยังทำให้เสียเวลาและพลังงานอีกด้วย คำสั่งซื้อขายจำนวนมากที่ไม่มีคุณภาพได้พรากความสนใจของคุณไปจากคำสั่งซื้อขายที่ดี เงินถูกนำไปจมอยู่กับความคิดแย่ ๆ ทำให้คุณพลาดโอกาสที่ดีกว่าที่ปรากฏขึ้น ยังมีต้นทุนที่มองไม่เห็นบนรายงานยอดบัญชี คุณเริ่มตั้งคำถามกับแผนและการตัดสินใจของตัวเอง คุณเปลี่ยนเครื่องมือและกฎเกณฑ์ไปเรื่อย ๆ และนั่นยิ่งทำให้ผลลัพธ์ของคุณไม่มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

วิธีหลีกเลี่ยง FOMO ในการเทรด

รอให้แผนของคุณเป็นไปตามที่วางไว้ก่อนแล้วค่อยคลิก หากกราฟเคลื่อนที่เร็วโดยไม่มีสัญญาณของคุณ ก็ปล่อยมันไป การพลาดการเคลื่อนไหวครั้งหนึ่งปลอดภัยกว่าการเข้าซื้อขายแบบสุ่มซึ่งอาจนำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่

ตั้งการแจ้งเตือนราคาในระดับที่คุณกำหนด เพื่อให้กราฟมาหาคุณและคุณจะได้อยู่ในสภาวะสงบ กำหนดระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนก่อนวางคำสั่งซื้อขาย หากจุดตัดขาดทุนอยู่ไกลและเป้าหมายอยู่ใกล้ ให้ข้ามความคิดนั้นไปแล้วรอจังหวะที่ดีกว่า

สร้างกฎเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีสติ ใช้รายการตรวจสอบก่อนเข้าซื้อขายด้วยคำถามสั้น ๆ 3-5 ข้อ เพิ่มกฎที่ว่าห้ามตามซื้อหลังแท่งเทียนใหญ่และต้องรออย่างน้อยสองนาทีก่อนส่งคำสั่งซื้อขายในราคาตลาด

ปกป้องความสนใจของคุณระหว่างซื้อขาย งดใช้โซเชียลมีเดียระหว่างที่ทำการซื้อขาย จัดบันทึกแต่ละคำสั่งซื้อขายและทบทวนภายหลังเพื่อเรียนรู้และรักษาแผนการซื้อขายให้แข็งแกร่ง

วิธีการเอาชนะ FOMO ในระยะยาว

เทคนิคแบบเร่งด่วนจะช่วยได้แค่ชั่วคราว แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องมีโครงสร้าง จงจดบันทึกคำสั่งซื้อขายและเขียนสรุปหลังแต่ละครั้ง บันทึกเหตุผลที่เข้าซื้อ ความรู้สึกของคุณที่เกิดขึ้น และกฎใดที่นำทางการตัดสินใจของคุณ

ทำการทบทวนสัปดาห์ละครั้งและจัดหมวดหมู่ทุกคำสั่งซื้อขายว่าเป็นไปตามแผนหรือตามอารมณ์ นับจำนวนคำสั่งซื้อขายตามอารมณ์ที่ขาดทุนและเขียนออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ การได้เห็นตัวเลขอย่างชัดเจนจะช่วยลดแรงกระตุ้นในการไล่ตาม

ศึกษาเทรดที่พลาดไปในช่วงเวลาที่สงบ เปิดกราฟเก่า ๆ และตรวจสอบว่ากฎของคุณทำงานได้หรือไม่ หลายครั้งอาจไม่ตรงกับกฎของคุณและนั่นเป็นเรื่องที่ปกติ กำหนดให้ชัดเจนว่าตั้งค่าการเทรดแบบ A ที่คุณจะเข้า และเทรดแบบ B ที่คุณจะปล่อยผ่าน

ฝึกฝนการรอคอยเพื่อไม่ให้คุณคลิกเร็วเกินไป ใช้ตัวจับเวลา 2 นาทีก่อนส่งคำสั่งซื้อขายในราคาตลาด วางคำสั่งซื้อขายหลังจากที่รายการตรวจสอบของคุณครบถ้วนแล้ว ความเสี่ยงของคุณได้รับการกำหนดแล้ว และแผนการออกของคุณถูกตั้งค่าไว้แล้ว

กำหนดขีดจำกัดรายวัน เพื่อไม่ให้อารมณ์มาควบคุมการเทรด กำหนดขีดจำกัดจำนวนคำสั่งซื้อขายและขีดจำกัดของการขาดทุนรายวัน เมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว ให้หยุดเทรดในวันนั้นแล้วค่อยเริ่มใหม่ในวันถัดไป การเทรดในวันที่เงียบสงบเป็นส่วนหนึ่งของงาน ดังนั้นควรใช้เวลานั้นเพื่อพักผ่อนหรือทบทวนบันทึกการเทรด

คุณจะไม่เอาชนะ FOMO ด้วยพลังใจ แต่จะเอาชนะมันได้ด้วยการปฏิบัติตามกิจวัตรที่มั่นคงซึ่งทำซ้ำทุกวัน กิจวัตรนี้จะช่วยปกป้องสมาธิของคุณและปล่อยให้ความอดทนทำงานแทน

เครื่องมือและนิสัยที่ช่วยได้

ผลลัพธ์จะดีขึ้นด้วยกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและวินัย ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่มากขึ้น นิสัยง่าย ๆ สองสามอย่างที่คุณใช้ทุกวันจะช่วยให้คุณสงบและทำตามแผนได้

• บันทึกการเทรด จดบันทึกแผนของคุณ เหตุผลที่เข้าซื้อขาย ผลลัพธ์ และบทเรียนหนึ่งอย่างที่ได้เรียนรู้ ควรทำทันทีหลังการเทรด

• รายการตรวจสอบก่อนเข้าซื้อขาย ก่อนกดสั่งซื้อ ถามตัวเองสามข้อ: การซื้อขายนี้ตรงตามกฎของฉันหรือไม่? จุดตัดขาดทุนอยู่ที่ไหน? จุดขายออกอยู่ที่ไหน?

• ขีดจำกัดความเสี่ยงรายวัน กำหนดขีดจำกัดตามจำนวนคำสั่งซื้อขายหรือจำนวนเงินที่คุณสามารถสูญเสียได้ในวันนั้น เมื่อถึงขีดจำกัดแล้วให้หยุดแล้วค่อยกลับมาใหม่ในวันถัดไป

• กรอบเวลาใหญ่กว่า เริ่มจากกรอบเวลาที่ใหญ่กว่าเพื่อดูแนวโน้มหลักและระดับสำคัญ ให้ใช้กราฟของกรอบเวลาที่เล็กกว่าเพื่อจับจังหวะเข้าซื้อขายเท่านั้น

• ก่อนเวลาตลาดรีเซ็ต ให้ใช้เวลาห้านาทีก่อนตลาดลอนดอนเปิดเพื่อเดินสั้น ๆ หรือหายใจเงียบ ๆ มันช่วยให้สมองของคุณปลอดโปร่งและลดการคลิกเร็วเกินไป

• ภาพหน้าจอและการทบทวน บันทึกภาพหน้าจอของคำสั่งซื้อขายใด ๆ ที่รู้สึกว่าเกิดจาก FOMO ทั้งก่อนและหลัง ทบทวนภาพเหล่านี้ทุกสัปดาห์และจดบันทึกวิธีการแก้ไข